เกมไพ่เสือมังกร ไม่ว่าจะเรียกชื่อใดก็ล้วนแต่เป็นชื่อของเกมที่ถูกพัฒนามาจากเกมบาคาร่าออนไลน์ซึ่งเป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบ่อนและคาสิโน ในขณะนี้เกมไพ่เสือมังกรก็ยังเป็นเกมที่ได้รับความนิยมจากผู้เล่นไม่แพ้เกมสล็อตออนไลน์รูเล็ตออนไลน์หรือไฮโลรวมไปถึงเกมการพนันอื่นๆ เลยทีเดียวโดยในส่วนของวิธีการเล่นเกมไพ่เสือมังกรหรือดราก้อนไทเกอร์นั้นจะมีวิธีการเล่นที่คล้ายกับเกมบาคาร่าออนไลน์หรือไพ่ป๊อกเด้งนั้นเอง
ไพ่เสือมังกร เกมเดิมพันยอดนิยมจากนักเสี่ยงโชค
โดยวิธีการเล่นก็เป็นการเล่นที่มีความง่ายดายไม่มีรูปแบบที่ยุ่งยากซับซ้อน สามารถเล่นได้ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ โดยในการเล่นเกมนั้นจะวัดกันที่แต้มของไพ่ฝ่ายไหนที่มีแต้มมากกว่าก็จะถือว่าเป็นผู้ชนะโดยการเล่นแบบนี้จะใช้เพียงให้แค่ใบเดียวในการเล่นเกมไพ่เสือมังกรนี้จะมีรูปแบบการเรียนแบบออนไลน์ง่ายๆ คือให้ผู้เล่นเลือกวางเดิมพันตามช่องที่เว็บไซต์กำหนดไว้ซึ่งมีทั้งหมด 4 ช่องได้แก่เสือ, มังกร, เสมอและให้คู่ โดยที่อัตราจำนวนเงินเดิมพันของการวางเดิมพันนี้ก็จะแตกต่างกันออกไป และอัตราการจ่ายก็แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน
สำหรับบทความนี้นักเดิมพันมือใหม่ที่มีความสนใจเล่นครั้งแรกหรือยังไม่เคยมีประสบการณ์เล่นเกมเสือมังกรมาก่อน บอกเลยว่าง่ายมากกับการนับแต้มไพ่ของเกมเสือมังกรออนไลน์ซึ่งไม่ได้นับเหมือนเกมไพ่บาคาร่าหรือเกมไพ่ป๊อกเด้งแต่อย่างใด มาดูกันว่า เสือมังกร มีการนับแต้มอย่างไร ดังนี้
– ไพ่ใบใดก็ตามที่มีแต้มเป็นตัวเลขเช่น เลข 2 เลข 3 เลข 4 จะนับแต้มตามตัวเลขนั้นๆ
– ส่วนไพ่ที่เป็นตัวอักษรหรือภาษาอังกฤษ คือ A = 1 แต้ม / J = 11 แต้ม / Q = 12 แต้ม / K = 13 แต้ม
– แต้มที่มากที่สุด คือ K = 13 แต้มเป็นแต้มที่มากที่สุดในเกม
– แต้มที่ต่ำที่สุด คือ A = 1 แต้ม
รูปแบบการเดิมพันหลักๆ มี 3 แบบ คือ
– เดิมพัน ฝั่งเสือ (Tiger) หากชนะเดิมพันจ่าย 1 เท่า
– เดิมพัน ฝั่งมังกร (Dragon) หากชนะเดิมพันจ่าย 0.95 เท่า
– เดิมพันผลเสมอ (Tie) หากชนะเดิมพันจ่าย 8 เท่า
ทั้งนี้ กรณีที่ไพ่ทั้งสองฝั่งออกมาเสมอกัน เราจะเสียเงินวางเดิมพันครึ่งจำนวน เช่น วางเดิมพัน 1,000 บาทคุณจะเสียเงินวางเดิมพัน 500 บาท ในกรณีที่ให้ทั้งสองฝั่งมีแต้มเท่ากัน